กล่าวกันว่ามีการผลิตสุรามาแต่โบราณกาลตั้งแต่รัชสมัยคันเอย์ (ปี 1631) ยุคที่มากที่สุดมีโรงหมักสุราถึงราว 30 โรง
แม้ในปัจจุบัน หมู่บ้านโคอะรัย หมู่บ้านโอดะสึเกะ ที่อยู่ใจกลางเมืองคิตากาตะยังมีแหล่งผลิตสุราอยู่ตั้ง 10 แห่ง ที่คอยป้อนสุราคิตากาตะรสอร่อย
สิ่งที่ตัดสินความอร่อยของสุราคิตากาตะ คือ น้ำใต้ดินจากเขาอีเดะที่นำมาเป็น “น้ำหมัก” ได้ไม่จำกัด
หิมะที่ตกลงมาปกคลุมเขาอีเดะ พอเวลาผ่านไป หิมะที่แข็งตัวค่อย ๆ คลายตัวเป็น “น้ำอ่อน” คุณภาพดีไหลลงมาในเมือง
น้ำใต้ดินที่เกิดจากมวลหิมะและความหนาวเย็นในฤดูหนาวเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งปัจจัยหนึ่งในการผลิตสุรา
และแล้วความคิดของเหล่าผู้ผลิตสุราที่เพียรพยายามผลิตสุรารสชาติดีออกมาในแต่ละวันก็กลายเป็นจริงขึ้นมาก ปัจจุบัน จังหวัดฟุกุชิมะทั้งจังหวัดกลายเป็นแหล่งผลิตสุรา นับจากปี 2012 ได้รับเหรียญทองจากสมาคมพิจารณาสุราใหม่ติดต่อกันถึง 6 ปี กลายเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ความสุดยอดที่คว้ารางวัลติดต่อกันได้ 6 ปีซ้อนเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของจังหวัดฟุกุชิมะ
สมาคมพิจารณาสุราใหม่จะจัดงานพิจารณาขึ้นทุกปี และจังหวัดฟุกุชิมะได้รับรางวัลเป็นแหล่งผลิตสุราที่มากที่สุดในญี่ปุ่นมาติดต่อกัน 5 ปีนับจากปี 2012 แม้ในปีนี้ ยังคงกำลังทำสถิติใหม่กันอยู่
ในปี 2016 โรงผลิตสุรากว่าครึ่งที่ได้รางวัลอยู่ในพื้นที่ไอสุ และในไอสุนี้เอง มีโรงผลิตสุราที่ได้เหรียญทองถึง 5 โรงล้วนมาจากคิตากาตะ
ที่คิตากาตะ มีเงื่อนไขคัมไป (ดื่มหมดจอก) ที่คนถิ่นนี้ภาคภูมิใจ คือ รินเหล้าใส่จอกที่ทำในคิตากาตะ
ในการแข่งขันไวน์นานาชาติ (International Wine Challenge) เมื่อปี 2015 ในส่วนของสาเก มีสุราที่ได้เหรียญทองในแต่ละสาขา ในกลุ่มนี้สุรายี่ห้อชั้นเลิศที่ได้รับถ้วยรางวัลได้แก่ 3 โรงหมักสุราจากคิตากาตะ
ในปี 2015 มีการคัดเลือกสาเกที่ได้ถ้วยรางวัล ให้ขึ้นมาเป็น “แชมป์สาเก” ซึ่งเป็นรางวัลสุดยอดจากแต่ละสาขาใน “สาเก” และเป็นที่ยอมรับกันว่าแชมป์สาเกเป็นสุราอันดับหนึ่งของโลก
ยี่ห้อขึ้นชื่อคือ "โคเดะรันนิ (Koderanni)”, "ซาสุเกะเนะ (Sasukene)", "นาโยสุนเบ (Najo Sunbe)" และ "ซุปเปตตะโคปเปตตะ (Suppeta Kopeta)" รสกลอมกล่อมล้วนได้รับความนิยม
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง “คลาสสิค (Kurashikku)” ที่เปิดดนตรีคลาสสิคให้ฟังเพื่อการหมักเหล้า
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง "คิตะโนะฮานะ (Kitanohana)", “คุระดัยโกะ (Kuradaiko)”
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง “ซาซามาซามูเนะ (Sasamasamune)”
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง “ไอสุโฮมาเระ (Aizuhomare)”
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง “ยามาโตะยะเซ็นนัย (Yamatoya Zennai)”
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง “ยาอุเอม่อน (Yauemon)”
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง “ยูเมะโงโคโระ (Yumegokoro)”, “นาระมัง (Naraman)”
ยี่ห้อขึ้นชื่ออย่าง “โยชิโนะคาวะ (Yoshinokawa)”
คิตากาตะเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยน้ำใต้ดินสดใสจากเทือกเขาอีเดะ มีข้าวพันธุ์ดี และทรัพยากรป่าไม้ มีอุณหภูมิร้อนหนาวซึ่งมีเฉพาะในเขตลุ่มน้ำที่มีเขาล้อมรอบ จึงพัฒนามาเป็นแหล่งผลิตสุรา แหล่งผลิตเครื่องเขิน ซึ่งกลายเป็นเงื่อนไขคัมไปของเมืองคิตากาตะที่ว่า “รินเหล้าคิตากาตะใส่จอกคิตากาตะแล้วคัมไป”
ยิ่งไปกว่านั้น ปีหนึ่ง ๆ คิตากาตะมีกิจกรรมสาเกญี่ปุ่นหลายครั้ง ในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตสุรา ในชีวิตประจำวันของผู้คนจึงรักชอบสาเกญี่ปุ่น
กิจกรรมจะมีดังต่อไปนี้
เดือนกุมภาพันธ์ “เทศกาลสาเกคิตากาตะ”
เดือนพฤษภาคม “ทอดน่องท่องคลังสุราคิตากาตะ”
วันที่ 1 เดือนตุลาคม “ดื่ม เหล้าพื้นเมืองคิตากาตะ หมดจอก”